Wednesday, November 4, 2009

ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการรักษาและปลูกป่าชายเลน

วันนี้โชคดี เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนฟังวิทยุช่อง greenwave 106.5 อยู่ก็ได้ยิน spot ช่วยกันปลูกป่าชายเลนโดยทางรายการให้ร่วมสนุกโดยเขียนเรื่องการอนุรักษ์ป่าชายเลนในแบบของคุณ ผมลองเขียนเข้าไปแข่งกับเขาดู ปรากฏว่าได้รับเลือกให้ผ่านรอบแรกเข้ารอบสอง ต้องไปสัมภาษณ์ที่ตึกแกรมมี่ที่อโศกที่รถติดมากๆ แถมนัดตอน6โมงเย็นที่รถติดสุดๆอีก ดีนะว่าไปด้วยรถไฟใต้ดินเลยรอดตัวไป พอไปถึงก็รอสัมภาษณ์กับกรรมการ 4 คน กับผู้สมัครอีกรอบละ 4 คน เราแก่สุดในกลุ่มแฮะ ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่ 10 นาที เล่าให้เขาฟังว่าเรามีส่วนช่วยรักษาสภาวะแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงานอย่างไร แล้วเราสอนลูกของเราให้มีจิตสำนึกที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไร

วิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เราก็เคยได้ยินกันอยู่แล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้หมดทุกอย่าง ลองมาดูกันว่าผมทำอะไรไปบ้าง

1. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน เปิดไฟเฉพาะบริเวณที่ใช้งาน ส่วนที่ไม่ใช้งานให้ปิดให้หมด

2. ไฟข้างบ้านที่ต้องเปิดไว้ตอนกลางคืน เพื่อกันขโมยก็ใช้สวิสต์ตั้งเวลาปิดเปิดช่วง 22.30 - 05.30 ใช้หลอดขนาด 8วัตต์ที่สว่างเท่ากับหลอด 40วัตต์ เพียงพอจะทำให้ข้างบ้านสว่างได้ทั่วถึง

3. เปลี่ยนหลอดในโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมดในบ้าน ที่หมู่บ้านให้มาแบบหลอดไส้ที่กินไฟ เป็นแบบหลอดตะเกียบประหยัดพลังงาน แถมซื้อตอน silvania เขามาขายลดราคาอีกต่างหากเลยได้ราคาถูก หลอดละ 60-70 บาท

4. เปลี่ยนไปใช้ก็อกประหยัดน้ำ

5. ใช้โถส้วมประหยัดน้ำ

6. ล้างแอร์ทั้งคอยล์ร้อน คอยล์เย็นอย่างสม่ำเสมอทุก 3-4 เดือน ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 1-2 สัปดาห์/ครั้ง ผมล้างทุกอย่างเอง ไม่ต้องง้อช่างจึงทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

7. เปลี่ยนน้ำยาแอร์จากเดิม R22 เป็นน้ำยาแอร์แบบ Hydrocarbon ที่ทำความเย็นได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่า และทำให้แอร์ประหยัดไฟขึ้น 15% รายการนี้ก็ทำเองอีก จ้างร้านทำก็คิดเงินค่าเปลี่ยนน้ำยาเครื่องละ 1500-2000 บาท ประหยัดไฟไปได้เยอะ

8. ติดฉนวนกันความร้อน stay cool ของตราช้าง หนา 6 นิ้วเหนือฝ้าชั้นสองทั้งหลัง กันความร้อนจากหลังคาลงมาที่ห้องนอน ทำให้บ้านไม่ร้อน ห้องนอนไม่อบอ้าว พอตอนกลางคืนเปิดแอร์แป็ปเดียวก็เย็นแล้่ว

9. ใช้แอร์ daikin inverter แอร์ระบบ inverter มีระบบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ที่ต่อเนื่องโดยปรับรอบการทำงานตามโหลดความร้อนในห้อง ทำให้มันประหยัดไฟกว่าแอร์ธรรมดา 30%

10. แยกขยะทุกชนิดก่อนทิ้ง เพื่อนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าให่้เขาเอาไปรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่ ประหยัดพลังงานในการผลิตของ ประหยัดวัตถุดิบ ของที่แยกออกก็มี ขวดน้ำดืมใส ขวดน้ำดืมขาวขุ่น กระดาษขาว กระดาษโบรชัวร์โฆษณาต่างๆที่รับแจกมา กล่องขนม/กล่องสินค้า/กล่ิองกระดาษต่างๆ กระดาษหนังสือพิมพ์ เศษพลาสติคเก่าๆที่ชำรุดไม่ใช้แล้ว ขวดแก้วใส ขวดแก้วสี น้ำมันพืชใช้แล้ว เศษเหล็ก ตัวถังคอมพิวเตอร์เก่าๆ หนังสือเก่าๆที่ได้มาเยอะแยะและไม่ใช้แล้ว ขยะทุกอย่างเป็นเงินทั้งนั้น แม้กระทั่งเศษอาหารเปียกก็เอาไปทิ้งในกระถางต้นไม้่เพื่อหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ผลก็คือขยะทิ้งจากบ้านผมมีน้อยมากๆเพราะแยกไปขายหมด บางคนอาจจะมองว่างก แต่ผมมองว่านี่เป็นความรับผิดชอบที่เราทุกคนต้องช่วยกันทำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานในการผลิตสินค้า และลดปริมาณขยะที่จะท่วมกรุงเทพอยู่แล้ว

11. อาบน้ำด้วยฝักบัว ไม่ใช้ขันตักรดเพราะเปลืองน้ำ ไม่ใช้อ่างอาบน้ำที่เปลืองน้ำมากๆ

12. ปลูกต้นไม้ใหญ่บังแดดโดนบ้าน บ้านจะเย็น แถมต้นไม้ฟอกอากาศอีก

13. รดน้ำสนามหญ้าตอนเย็น น้ำจะระเหยน้อยที่สุด

14. ล้างรถก็เปิดน้ำเบาๆ ไม่ต้องเปิดน้ำซะแรงทิ้งไปเปล่าๆ

15. เป่ากรองอากาศรถทุกๆ 2000 กิโล ถอดมาเป่าเองไม่ยากหรอก ทีีปั๊ม Jet เขามีลมให้เป่าฟรี เป่าแล้วอากาศเข้าเครื่องยนตร์สะดวก ประหยัดน้ำมัน

16. โยนของทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกจากรถ ให้รถเบาที่สุด โยนออกแม้กระทั่งยางอะหลั่ยแล้วพกที่สูบลมยางแทน ลดน้ำหนักรถไปได้เกือบๆ 30 กิโลเชียว ทำเป็นเล่นไป

17. เติมลมให้พอดี ผมใช้แรงดันลดประมาณ 34 ปอนด์/ตารางนิ้ว ทั้ง 4 ล้อ ลมแข็งไปนิด แต่รถวิ่งดีมาก ประหยัดน้ำมัน

18. ติด ground wire ในห้องเครื่อง ช่วยให้ไฟฟ้าเดินสะดวกขึ้น เครื่องยนตร์บับแล้วมันลื่นขึ้น ตอบสนองดีขึ้นจนรู้สึกได้

19. ไม่ต้องเติมน้ำในที่ฉีดกระจกให้เต็มหรอก มันหนักรถ เติมแค่ 1/5 ก็พอแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้หรอด น้ำหมดก็เติมได้ทุกปั๊ม

20. การขับรถอย่าจี้คันหน้า เว้นระยะห่างพอควร มองไปข้างหน้าไกลๆ ถ้าเห็นรถเริ่มติดหรือไฟแดงรออยู่ก็ถอนคันเร่ง ปล่อยรถไหลเข้าไป ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องเบรคบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวคันหน้าเบรคกระทันหันเพราะเราเว้นระยะไว้ปลอดภัยแล้ว ขับแบบนี้ประหยัดน้ำมัน ประหยัดผ้าเบรคได้เยอะ ผมขับรถ 120,000 กิโลแล้วผ้าเบรคชุดเดิมตอนซื้อรถเมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไม่หมดเลย คงใช้ได้อีกเป็นปี

21. การออกตัวรถจากจุดหยุดนิ่งก็สำคัญ อย่าเร่งเร็วๆ แรงๆรักษารอบเครื่องสัก 2500 รอบตอนออกตัว หรือเต็มที่ก็ 3000 รอบ ค่อยๆไต่ความเร็วขึ้นช้าๆ จะประหยัดน้ำมันได้มาก ถ้าขับทางตรงถนนยาวๆ พอเร่งความเร็วได้ 120 ก็รักษาความเร็วแช่คันเร่งเลย จะประหยัดน้ำมันที่สุด

22.ไม่ต้องขนไปติดสปอยเลอร์ สเกิตร์รอบคัน หรือคิ้วบังลมที่กระจกทั้ง 4 ด้าน เพราะของพวกนี้ทำให้รถหนักขึ้น ต้านลมมากขึ้น รถกินน้ำมันมากขึ้น

23.ไม่ต้องใช้ไฟตัดหมอก เพราะเมืองไทยแทบจะไม่มีหมอกเลย ยิ่งใน กทม ยิ่งไม่ต้ิองใช้ ที่เปิดกันเกลื่อนเมืองนั่นเปิดเอาเท่ห์เอาสวยทั้งนั้น ไฟตัดหมอกกินแรงเครื่องยนตร์ ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

24. เปิดแอร์ในรถเอาแค่พอเย็นๆ ไม่ต้องเย็นมาก เปิดแอร์จะกินแรงเครื่องยนตร์มากขึ้นและกินน้ำมันขึ้น 10% ถ้าขับรถช่วงเช้าๆอากาศดีอย่างที่ผมขับตอน 6 โมงเช้าก็ไม่เปิดแอร์ เปิดกระจกรับลมแทน

25. ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ใสหน่อย สัก 10W30 จะช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นอีกนิด

26. เวลาเติมน้ำมันรถ เติมให้รถวิ่งได้สัก 1 อาทิตย์ก็พอ อาจจะสักครึ่งถัง ไม่จำเป็นต้องเติมเต็มถังเ 50-70 ลิตรเพราะทำให้รถหนักมาก เร่งออกตัวช้า เบรคหยุดยากขึ้น ปั๊มน้ำมันมีเยอะแยะ ไม่ต้องกลัวน้ำมันหมด

27. เวลารถติดไฟแดง อย่าเ้หยียบเบรคค้างไว้แล้วเข้าเกียร์ D คาไว้ มันเปลืองน้ำมัน ให้เข้าเกียร์ N ไปก่อน ไฟเขียวแล้วค่อยเข้า D ใหม่ ไม่ต้องกลัวเกียร์พังเพราะเปลี่ยนบ่อย ผมใช้มา 10 กว่าปีแล้วไม่เห็นมันพัง ไม่เคยต้องซ่อมเกียรฺ์้เลย แค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40000 กม

28. น้ำยาแอร์รถเติม R134 ถ้าเปลี่ยนเป็นน้ำยาแอร์แบบ Hydrocarbon จะทำให้้แอร์รถเย็นเร็วขึ้น 2 เท่า กินแรงเครื่องน้อยลง และประหยัดน้ำมันรถอีก 5-8% ทีเดียว นี่ใช้เอง วัดอัตราการสิ้นเปลืองมาแล้วถึงแน่ใจว่ามันประหยัดจริง เย็นจัดจริงๆ

29.เปิดไฟหน้าเมื่อจำเป็นจริงๆ และปิดเมื่อแสงสว่างภายนอกเพียงพอแล้ว ไฟหน้ากินไฟมาก ฉุดเครื่องยนตร์มาก ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

30. ไอ้ forward mail ที่บอกว่าให้เติมน้ำมันตอนอากาศเย็นๆจะได้ปริมาณน้ำมันเยอะๆนั่นไม่ต้องไปเชื่อหรอก มันไม่เวิร์คขนาดที่คุณต้องมาเติมน้ำมันตอน 3-4 ทุ่มหรอก สะดวกเมื่อไรเติม วิธีที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดอยู่ที่การเหยียบคันเร่งให้นุ่มนวล

31. น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาที่สุดของศูนย์บริการ หรืออย่างที่ผมใช้คือของ ปตท แบบ semi synthetic แกลลอนละ 550 บาท มันสามารถใช้ได้ 10,000 กม สบายๆ ไม่ต้องขยันเปลี่ยนทุก 5000 กม หรอก มันเสียของ ใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า

32. ที่ทำงานจะปิดไฟในออฟฟิศตอนพักเที่ยง ไอ้นี่ประหยัดได้เยอะเชียว ใช้โคมไฟแบบที่มีแผ่นสะท้อนแสงดีๆ แทนที่จะใช้หลอดนีออก 3 ดวง/โคม ก็เหลือ 2 ดวง/โคม

33. ผมติดหัวพ่นหมอกน้ำให้พ่นหมอกใส่คอยล์ร้อนของแอร์ที่บ้าน และที่ทำงาน หมอกน้ำจะดึงความร้อนออกจากแผงระบายความร้อนได้เร็วมาก แอร์เย็นเร็ว และประหยัดไฟขึ้น 15-20% เลยทีเดียว เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ลงทุกแค่ 400 บาท/แอร์1ตัวเท่านั้น ยิ่งหน้าร้อนอากาศร้อนจัดๆจะเห็นผลชัดมาก

34. ตั้งตู้เย็นให้ห่างกำแพงสัก 15-20 ซม ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี ตู้เย็นจะระบายความร้อนได้เร็ว ประหยัดไฟ ผมเลือกใ้ช้ตู้เย็นแบบ inverter ที่ประหยัดไฟกว่าระบบธรรมดา 25-30% ป้องกันแดดไม่ให้ส่องโดนตู้เย็น

35. ในบางพื้นที่อย่างแถวบ้านผมน้ำแรงจนไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำ ทำให้แม้ว่าผมจะติดตั้งปั็็๊มน้ำไปแล้วแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเ้ปิดใช้งานเลย ประหยัดค่าไฟของปั๊มน้ำไปเยอะ ท่อน้ำทั้งหมดในบ้านพยายามเลือกใช้ท่อใหญ่ขนาด 6 หุนไปจนถึง 1 นิ้วทำให้แรงดันน้ำในท่อตกลงน้อย น้ำจะไหลแรงโดยไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำ

นี่เขียนมาก็เกือบ 90 นาทมีแล้ว ชักจะนานไป เอาคร่าวๆเท่านี้ก่อน แต่คุณจะเห็นแล้วว่าการประหยัดพลังงาน การรีไซเคิล การช่วยกันรักษาสภาวะแวดล้อมไม่ใช่เรื่องจาก ถ้าทำตามที่ผมกล่าวมา จะประหยัดเงินของคุณไปได้เยอะทีเดียว

คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าผมทำอย่างไรถึงลดค่าไฟของออฟฟิศไปได้ 25-30% ประหยัดเงินไปเดือนละ 2-3 หมื่นบาทโดยไม่ต้องลงทุนเลย ทำได้ง่ายๆ

No comments:

Post a Comment