Tuesday, April 12, 2016

เทคนิคการประหยัดไฟค่าแอร์

หน้าร้อนปี 2559 ปีนี้ร้อนมากกว่าปีอื่นๆ อุณหภูมิใน กทม ขึ้นไปถึง 40 องศาในตอนบ่าย หลายๆคนรวมทั้งผมด้วยต้องเปิดแอร์เพื่อบรรเทาความร้อน  ยิ่งอากาศร้อนมาก แอร์จะทำงานหนัก และกินไฟมากขึ้น  ค่าไฟก็แพงขึ้น  เราจะมาดูวิธีการเปิดแอร์บรรเทาความร้อน และประหยัดไฟ

1. ล้างแอร์ให้สะอาด การทำความสะอาดคอล์ยเย็นในบ้านทำให้แอร์พ่นลมเย็นออกมาได้สะดวก ห้องเย็นเร็ว  

2.หมั่นทำความสะอาดคอล์ยร้อนนอกบ้าน คุณทำความสะอาดเองได้ง่ายๆโดยการใช้สายยางฉีดน้ำเฉียงๆจากด้านบน ลงไปด้านล่างของแผงคอล์ยร้อน ทั้งนี้เพื่อให้น้ำไล่ขี้ที่ติดอยู่ออก จะทำให้ระบายความร้อนได้สะดวก แอร์จะเย็นเร็ว ทำงานหนักน้อยลง และกินไฟน้อย   ห้ามฉีดน้ำเข้าไปในแผงระบายความร้อนแบบตรงๆ เพราะจะเป็นการดันฝุ่นให้เข้าลึกเข้าไปในแผงระบายความร้อน ถ้าน้ไไม่แรงพอจะทำให้ฝุ่นสะสมจนอุดตันในที่สุด

3.ถ้าคอย์ลร้อนต้องตากแดดตลอดเวลา จะให้ความร้อนสูง ระบายความร้อนออกยาก แอร์จะกินไฟ หาทางสร้างที่กำบังแดดหรือหลังคาคลุมคอล์ยร้อน จะทำให้กินไฟน้อยลง แอร์เย็นเร็ว 

4.เวลาจ้างช่างมาล้างแอร์ ถ้าแอร์ยังเย็นดี ไม่ควรให้เปิดจุกเพื่อวัดแรงดันน้ำยาแอร์ ทุกครั้งที่ช่างต่อเกจ์วัดน้ำยา จะมีน้ำยาแอร์รั่วไหลออกมาเสมอ ถ้าช่างต่อไม่ดี น้ำยาจะซึกออกมาเยอะ ทำให้แอร์เย็นน้อยลงหรือน้ำยาขาด  ทางที่ดีสั่งช่างแอร์เลยว่าล้างแอร์อย่างเดียวห้ามวัดน้ำยา และไม่ต้องเติมน้ำยาให้ด้วย    น้ำยาแอร์ที่มาจากโรงานจะมีคุณภาพดีมีสิ่งเจอปนน้อยกว่าน้ำยาแอร์ที่ช่างแอร์ทั่วๆไปใช้    ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรเติมน้ำยาแอร์ของช่างทั่วๆไปที่เราไม่รู้ว่าเขาใช้น้ำยาคุณภาพดีแค่ไหน  น้ำยาแอร์ R22 ถูกๆกิโลกรัมละ 90 บาท  น้ำยาดีๆกิโลกรัมละเกือบ 200 บาท ส่วนใหญ่ช่างมักเอาน้ำยาแอร์ถูกๆมาใช้   แอร์ขนาด 12,000 btu ถ้าปล่อยน้ำยาออกหมดแล้วเติมใหม่ จะใช้น้ำยาประมาณ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ถ้าน้ำยาขาดสัก 10 ปอนด์ หรือ 20 ปอนด์ ก็เติมน้ำยาแค่ 2-3 ขีด ค่าเติมน้ำยาเพิ่มควรจะไม่เกิน 200 บาทเท่านั้น   ไม่ใช่คิดกันเป็นปอนด์ ปอนด์ละ 60-70 บาท อันนี้มันปล้นกันแล้ว  ระบบน้ำยาในแอร์เป็นระบบปิด ไม่มีทางรั่วไหลไปไหน คือไม่ต้องเติมน้ำยา  นอกจากแอร์จะเก่ามากๆ 15-20 ปีที่ท่อน้ำยาหรือข้อต่อท่ออาจจะรั่ว ผุกร่อน ทำให้น้ำยาซึมออกได้

5. บังแดดให้ห้องที่จะเปิดแอร์ ถ้าทำได้ การบังแแดไม่ให้โดนห้องจะลดควาามร้อนที่เข้าสู่ห้องได้มาก ช่วยให้แอร์ทำงานน้อยลง  วิธีบังแดดมีตั้งแต่ปลูกไม้ให้ร่มเงา  กางผ้าใบกันแดด กางสแลมกันแดด 

6.ถ้ากันแดดจากด้านนอกไม่ได้ ก็หาทางติดผ้าม่านด้านในห้องเพื่อลดปริมาณแดดหรือความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวห้อง

7.ตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม  รัฐบาลเคยบอกว่าให้ตั้งแอร์ไว้ที่ 25 องศาจะประหยัดไฟมาก ซึ่งยังไม่ถูกนัก   เราควรตั้งอุณหภูมิแอร์ให้สูงที่สุดเท่าที่เราจะยังรู้สึกสบายตัว  ถ้าตั้งที่ 27 องศาก็ประหยัดมากกว่า 25 องศา  ตั้ง 29 องศาก็ยิ่งประหยัดมากขึ้นไปอีกแต่จะไม่เย็นสบายตัวนัก  เรามีวิธีแก้โดยการเปิดพัดลมให้พ่นลมไปให้ทั่วห้อง หรือพ่นลมใส่ตัวโดยตรงก็ทำให้เย็นได้แม้จะเปิดแอร์ที่ 29 องศา      
        อีกเรื่องที่เราต้องดูคืออุณหภูมิภายนอกห้อง  ถ้าข้างนอกร้อนมาก 42 องศา แต่เราตั้งแอร์ที่26 องศา จะเห็นว่าอุณหภูมิต่างกันถึง 16 องศา ซึ่งต่างกันมาก แอร์จะทำงานหนักมาก เดินไม่ยอมตัด ทำให้กินไฟแพงมาก   เราควรตั้งอุณหภูมิในห้องไม่ให้ต่างจากนอกห้องมากจนเกินไป   เช่นถ้านอกห้องร้อน 42 องศา  ในห้องเราอาจตั้งสัก 29 หรือ 30 องศาก็จะเย็นแล้ว  จะช่วยบรรเทาภาระแอร์ และลดค่าไฟลงไปมาก

8. ลดความชื้นในห้องแอร์ให้มากที่สุด  ความชื้นในอากาศจะทำให้แอร์กินไฟมากขึ้นในการทำงานความเย็น  เพราะต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการดึงน้ำออกจากอากาศ ถ้ายังมีน้ำอยู่ในอากาศจำนวนมากหรืออากาศชื้น แอร์จะกินไฟมากขึ้น  สังเกตุได้จากน้ำทิ้งจากท่อน้ำทิ้งของแอร์ที่ตอนเปิดแอร์ใหม่ๆจะมีน้ำออกมามาก นั่นคือน้ำจากอากาศในห้อง  หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นในห้องแอร์ เพราะน้ำที่อยู่บนพื้นจะระเหยไปในอากาศในห้อง แอร์จะต้องดูดความชื้นออกให้เปลืองไฟอีก

9.กำจัดแหล่งความร้อนออกจากห้องแอร์ เช่น ไม่ควรหุงข้าว หรือใช้กาต้มน้ำไฟฟ้าในห้องแอร์ เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นจะเพิ่มความร้อนในห้อง ทำให้แอร์ทำงานหนัก

10.อย่าเปิด ปิด ประตูห้องบ่อยๆ เพราะจะทำให้อากาศร้อนเข้ามาให้ห้อง และอากาศเย็นหลุดออกไป แอร์ทำงานหนักขึ้นอีก

11.ไม่ควรติดพัดลมดูดดอากาศออกจากห้องแอร์ ถ้าคุณไม่ได้สูบบุหรี่ในห้องแอร์ และมีคนอยู่ในห้อง 4-5 คน ไม่จำเป็นต้องติดพัดลมดูดอากาศ  เพราะอากาศเย็นจะถูกดูดทิ้งไปจำนวนมาก และอากาศร้อนจะเข้ามาแทนที่ ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น  ปกติเวลาที่เราเข้าออกห้องก็ทำให้มีอากาศถ่ายเทอยู่แล้ว

12. ความร้อนเข้ามาทางกระจกได้จำนวนมาก ถ้าสร้างบ้านใหม่ให้พิจารณาใช้กระจกชนิดตัดความร้อน ซึ่งมีราคาสูงกว่าแบบธรรมาพอสมควร แต่ช่วยให้บ้านคุณเย็นไปอีกนับสิบปี เป็นการลงทุนในระยะยาวสำหรับบ้านประหยัดพลังงาน

13. ถ้าต้องซื้อแอร์ใหม่ ให้ใช้แอร์ inverter ที่จะประหยัดไฟกว่า  ให้ความเย็นสม่ำเสมอกว่า แต่ลมแอร์อาจจะไม่เย็นฉ่ำแบบแอร์ธรรมดา   ผมเองใช้แอร์ inverter เท่านั้น ทั้งประหยัดไฟและสบายตัวกว่า

ใครทำได้ครบ 12 ข้อนี้ คุณจะประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลย

ท่านใดอยากพูดคุยเพิ่มเติม ก็ส่งเมลล์มาที่ yutc68@yahoo.com ได้ครับ