Sunday, July 26, 2009

สถานที่ซื้ออุปกรณ์สำหรับ DIY แอร์

หลายคนถามว่าผมซื้ออุปกรณ์ที่ไหน เลยรวบรวมเอาไว้ให้ดูเป็นแนวทาง

น้ำยาแอร์แบบประหยัดไฟ cold22 ซื้อที่ www.coolman.co.th ใช้แล้วเย็นเร็วขึ้นกินไฟน้อยลงจริง

ผ้าใบล้างแอร์ซื้อที่ร้านอมร สาขา โลตัสบางกะปิ โดยสั่งให้เขาเบิกของมาจากสาขาบ้านหม้อให้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปบ้านหม้อ

clamp meterวัดกระแสไฟ เกจ์วัดน้ำยาแอร์ กับดิจิตอลเทอร์โมมิเตอร์แบบวัดอุณหภูมิได้ 2 จุดพร้อมๆกัน ก็ร้านอมรอีก

ปั๊ม vaccuum แบบสายพานนี่ซื้อของมือ 2 ที่คลองถมวันเสาร์ ได้มาแบบไม่ตั้งใจ ไปเดินเล่นแล้วได้มา

ร้านที่มีของครบทุกอย่างเลยก็ร้านโอกิที่บ้านหม้อนี่แหละ ไปที่เดียวได้หมดทุกอย่าง ราคาไม่แพง หาที่จอดรถยากหน่อย

หนังสือความรู้เกี่ยวกับแอร์บ้าน แอร์รถยนตร์ก็ที่ Se-ed เป็นตำราของ ปวส เล่มละ 100 กว่าบาท

จากนั้นก็ไปอ่านที่ http://rcw.ms/forums/showthread.php?p=9546442#post9546442 ซึ่งผมได้รับความรู้ด้านแอร์จากสมาชิกใจดีทุกท่นของที่นั่นมาเยอะ จากนั้นก็มาหัดเล่นเองกับแอร์ที่บ้าน

ซื้อแอร์ร้านไหนดี

คำถามที่คนมักถามกันประจำคือซื้อแอร์ร้านไหนดี สำหรับผมจะซื้อร้านนอกห้างสรรสินค้าเพราะได้ราคาถูกกว่าหลายพันบาท แถมฝีมือการติดตั้งก็เหมือนๆกันนั่นแหละ ผมจึงซื้อจากร้านในเน็ตซึ่งจะราคาถูกมาก ราคารวมค่าติดตั้งแล้ว แต่ไม่มีบริการล้างแอร์ฟรีปีละ 2-3 ครั้ง ซึ่งนั้นก็ไม่ใช้่ปัญหาเพราะผมล้างแอร์เองอยู่แล้ว สะอาดกว่าช่างล้างแน่ๆ

ส่วนเรื่องฝีืมือการติดตั้ง ถ้าจะเอาแบบแน่นอน 100% คงแนะนำให้ซื้อเฉพาะตัวเครื่องจากร้านข้างนอก แล้วไปจ้างช่างจากศูนย์บริการอย่างไดกิ้น มิตซู ให้ติดตั้งให้ ค่าบริการแพงหน่อยแต่รับประกันฝีมือ

เรื่องแอร์ยี่ห้ออะไรดี ผมเองใช้ไดกิ้น ก็คงเชียร์ไดกิ้นเพราะราคาไม่แพง บริการหลังการขายดีมาก โทรเรียกปุ๊ปก็มาเร็ว ซ่อมจนเสร็จ จะซื้อแอร์จากร้านไหนก็ไม่สำคัญ ถ้ามีปัญโทรเข้าศูนย์บริการ ไดกิ้นจะส่งช่างมาแก้ให้จนเสร็จ ผมเคยมีัปัญหาช่างจากร้านที่ขายเครื่องให้ติดตั้งไม่ดี มีน้ำยาแอร์รั่วออก ช่างไดกิ้นก็มาแก้งานให้ แก้ปัญหาน้ำยารั่วแล้วเติมน้ำยาให้ใหม่จนเย็นกว่าเดิมอีกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีการซักถามใดๆทั้งสิ้น แบบนี้ถึงใช้แต่ยี่ห้อนี้มาตลอด บางคนบอกแอร์มิตซูก็ดีเช่นเดียวกันใครสนใจก็ลองดู ผมยังไม่เคยใช้บริการ เห็นว่าราคามันแพงกว่าไดกิ้นก็เลยไม่สน

ช่างติดตั้งจากร้านทั่วๆไปไม่ว่าจะร้านในห้างหรือนอกห้าง โดยปกติก็ฝีมือไม่ต่างกันหรอก พอๆกัน แต่ช่างบางคนก็ติดตั้งเรียบร้อยมากกว่าคนอื่นๆ ผมจะย้ำกับคนที่มาถามทุกครั้งว่าไม่ว่าจะเป็นช่างจากที่ไหนก็ตาม ให้เจ้าของบ้านคุมงานตอนติดตั้งทุกครั้ง จะให้เดินท่อแอร์ทางไหน ติดคอล์ยร้อนที่ใด คุยกันให้ชัดเจนก่อนลงมือติดตั้ง ที่สำคัญคือเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ก่อนจะปล่อยน้ำยาแอร์เข้าระบบ ต้องทำสญญากาศ(vacuum)หรือที่เรียกกันว่า แวคระบบก่อน 30 นาที โดยช่างจะเอาปั๊มดูดอากาศออกจากท่อแอร์ 30 นาทีก่อน เพื่อไล่ความชื้นในท่อแอร์ออกให้หมด ก่อนปล่อยน้ำยาเข้า ถ้าไม่ทำอย่างนี้ความชื้นที่มีในท่อแอร์จะทำให้แิอร์ทำงานไม่เต็มที่ ถ้าชื้นมากๆอาจถึงขั้นแอร์ตันเพราะไอน้ำจับตัวเป็นน้ำแข็ง

มีเยอะครับที่ซื้อแอร์จากร้านชื่อดังในห้างแล้วช่างมาติดตั้งฝีมือไม่ได้เรื่อง บางร้านมีช่างหลายชุด ช่างบางชุดฝีมือดี บางชุดฝีมือแย่ คน 2 คนซื้อแอร์ร้านเดียวกันแต่เจอช่างคนละชุดจะได้ผลงานต่างกันก็เป็นได้

เรื่องยี่ห้อแอร์นี่ก็สำคัญ โดยส่วนตัวผมจะเลือกเฉพาะยี่ห้อญี่ปุ่นเท่านั้น ของเกาหลีไม่เอา ยี่ห้อไทยแต่ใช้ชื่อญี่ปุ่นอย่าง S..J. นั่นก็ไม่เอาเพราะมีปัญหาเยอะพอพ้นปีที่ 1-2ไปแล้วแถมเสียงคอล์ยร้อนดังกระหึ่มตั้งแต่วันแรกที่ใช้งาน

บางคนเน้นของถูก จะซื้อแอร์มือสอง หรือแอร์ไม่มียี่ห้อจากร้านทั่วๆไปหรือที่คลองถม แอร์พวกนี้ราคาถูก เย็นเหมือนกัน แต่กินไฟเยอะแถมเราไม่แน่ใจในคุณภาพการใช้งานนานๆ แอร์ญี่ปุ่นแต่ละตัวที่ผมใช้อายุการใช้งานเกิน 10 ปีสบายๆโดยไม่เคยเสีย ไม่ต้องเติมน้ำยาเลย ค่าไฟก็ไม่แพง แต่แอร์โนเนมราคาเครื่องถูก กินไฟเยอะ เสียงดัง บิลค่าไฟทุกเดือนจะกวนใจคุณไปอีก 10 ปีข้างหน้า เลือกเอาแล้วกันว่าชอบแบบไหน

ถ้าอยากให้แอร์ประหยัดไฟแบบระบบไฮบริดจริงๆล่ะก็ไม่ต้องซื้อแอร์ใหม่หรอก แค่ไปซื้อ cooling pad มาติดตั้งกับคอล์ยร้อนของเดิม เท่านี้แอร์ของคุณจะหลายเป็นระบบไอบริด ประหยัดไฟไปได้เยอะแล้ว ค่า cooling pad พร้อมติดตั้งประมาณสัก 6พันกว่าบาท ลองค้น google ดูด้วยคำว่า แอร์ cooling pad จะเจอร้านขายเพียบเลย ส่วนแอร์ยี่ห้อ SJ ที่โฆษณาว่าประหยัดไฟมากนั้น หากคุณไปค้นกระทู้ในห้องชายคาของ pantip.com จะพบว่าโดนคนมาบ่นถึงปัญหาจำนวนมาก จึงไม่แนะนำให้ใช้

ผมซื้อแอร์จากร้าน www.promduang.com ลองเข้าไปดูราคาเองก็แล้วกัน ผมว่าราคาไดกิ้นเขาถูกมากๆ ราคารวมค่าติดตั้งแล้ว อย่าลืมคุมงานช่างใหเดีๆ แนะนำให้ใช้ไดกิ้นอินเวอร์เตอร์ แบบน้ำยา R22 ที่ทำความเย็นดี เสียงเงียบ ประหยัดไฟมากๆ ที่บ้านใช้ daikin inverter ทุกตัวเลย

เวปที่จะเจอโฆษณาร้านขายแอร์เยอะๆก็มีที่
www.pantipmarket.com
www.thaisecondhand.com

เพิ่มเติม 22 พค 53: Google รายงานว่าบทความในหน้านี้เป็นบทความยอดนิยมของ blog ผมเลย คนส่วนใหญ่จะใช้ Google ค้นเจอ ผมเลยถือโอกาสเพิ่มข้อมูลในหน้านี้ให้สมบูรณ์ขึ้น คนที่ซื้อแอร์จะได้มีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจ

ตอนนี้มีแอร์ที่ใช้น้ำยาตัวใหม่ที่ชื่อ R410 ให้เลือกแล้วแต่ผมไม่แนะนำให้ใช้เพราะราคาแอร์แบบนี้จะสูงกว่าแบบที่ใช้น้ำยา R22 มาก เรายังมีน้ำยา R22 ใช้ไปอีกอย่างน้อยใน 10ปีข้างหน้าอย่างสบายๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเยอะเพื่อซื้ออนาคตที่ยังไกลมากกับน้ำยา R410 เรื่องนี้มีคนมาถามประจำในห้องชายคา ถามบ่อยๆจนผมเลิกตอบไปแล้ว เพราะแต่ละคนที่ถามนี่ไม่ได้ค้นกระทู้เดิมๆดูก่อนถามเลย

ขนาด BTU แอร์ที่ต้องเลือกใช้ ให้เอาพื้นที่ห้อง คูณด้วย 800 จะได้เป็น BTU แอร์ที่ต้องซื้อ เช่นห้องขนาด 4 x 3.5 เมตรจะมีพื้นที่ 14 ตรม คูณ 800 ได้ขนาดแอร์เป็น 11,200 btu ให้ซื้อแอร์ขนาด 12000 BTU

ขนาดมิเตอร์ไฟบ้าน กับขนาดแอร์: แอร์ 12000 btu จะกินกระแสไฟประมาณ 4.5-5.3 แอมป์ ถ้าบ้านขนาดเล็กจะใช้มิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ซึงจ่ายกระแสได้สูงสุด 15 แอมป์ ดังนั้นมิเตอร์ 5 แอมป์จะติดแอร์ 12000 btu ได้เต็มที่ 2 ตัว และต้องระวังไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆอย่างพร้อมกัน ไม่งั้นใช้ไฟเกินขนาด 15 แอมป์ที่มิเตอร์จะจ่ายได้ มิเตอร์จะพังแล้วคุณเสียเงินให้การไฟฟ้าอีกหลายพันบาทแน่ เช่น เปิดแอร์ 2ตัวก็ 10 แอมป์แล้ว หุงข้าวด้วยอีก 1.5 แอมป์ ปั๊มน้ำอีก 2 แอมป์ เป็น 13.5 แอมป์แล้ว ถ้าเปิด TV LCD 42 นิ้วก็อีก 1 แอมป์เป็น 14.5 แอมป์ เปิดไมโครเวฟด้วยอีก 3 แอมป์ เกิน 15 แอมป์ไปแล้ว มิเตอร์พัง ดังนั้นระวังให้ดีๆ ถ้าจำเป็นจริงๆก็เปลี่ยนเป็นมิเตอร์ 15 แอมป์ที่จ่ายกระแสได้ถึง 45 แอมป์จะดีที่สุด

ในการติดตั้งแอร์ ต้องย้ำช่างด้วยว่าให้ต่อสายดินทุกครั้ง ไม่งั้นไฟที่รั่วนิดๆที่ตัวแอร์จะดูดให้สดุุ้งทุกครั้งที่ไปโดนส่วนที่เป็นโลหะ

สำหรับห้องแอร์ที่อยู่ชั้น 2 จะรับความร้อนจากใต้หลังคาแผ่ลงมาที่ฝ้าเต็มที่ ถ้าเอามือไปจับฝ้าจะพบว่าฝ้าร้อนมาก ในกรณีนี้เปิดแอร์ไป 2-3ชั่วโมงห้องก็ไม่ค่อยเย็น แถมแอร์เดินตลอดไม่ยอมตัด มันก็จะกินไฟมาก วิธีแก้คือให้ติดแผ่นฉนวนกันความร้อน stay cool หนา 6 นิ้วของตราช้าง โดยปูทับไปบนฝ้า มันจะป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าไปในห้องแอร์ได้ คราวนี้ห้องแอร์จะเย็นเร็ว ประหยัดไฟไปได้มาก ฉนวนตัวนี้เป็นแผ่นกว้าง 60 ซม ยาว 4.0 เมตร หนา 6 นิ้ว เอามาปูบนฝ้าเอง หรือจะจ้างช่างมาปูให้ก็ได้

บ้านผมปูฉนวนทั้งหลัง ทำให้บ้านชั้น 2ไม่ร้อนในตอนกลางวัน ผมใช้แอร์ daikin inverter 11700 btu 3ตัว เปิด1 ตัวตอนกลางวัน 10.00 - 22.00 ก็ 12 ชม เปิดตอนกลางคืน 2ตัว 22.00-8.00 เปิดแบบนี้ทุกวัน ค่าไฟเดินมีค 53 แค่ 1350 บาท เมษา53 ร้อนขึ้นเลยเพิ่มเป็น 1630 บาท เดือน พค ก็คง 1650-1700 บาท ประมาณนี้แหละ อันนี้ต้องยกความดีให้ฉนวนกันความร้อน และัแอร์ inverter ที่มันกินไฟน้อยมาก

เพิ่มเติม 5 มีค 55 ราคาแอร์ไดกิ้น inverter รวมค่าติดตั้ง จากร้านใน กทม ที่ผมเคยซื้อ

..........รุ่น..................แบบ...............ขนาด.........ราคา
FTKE12GV2S/RKE12GV2S inverter#5 10,900 btu 22,600
FTKE15GV2S/RKE15GV2S inverter#5 14,300 26,400
FTKD18GV2S/RKD18GV2S inverter#5 17,700 28,800
FTKD24GV2S/RKD24GV2S inverter#5 20,800 42,800

เพิ่มเติม 21 เมษา 56 ราคาแอร์ไดกิ้น inverter รวมค่าติดตั้ง จากร้านใน กทม ที่ผมเคยซื้อ
http://www.promduang.com/daikinair.htm
MODEL
ระบบ / เบอร์
BTU
ราคาฟรีค่าติดตั้ง
FTKD09GV2S/RKE09GV2S
inverter#5
8,500
18,000
FTKD12GV2S/RKE12GV2S
inverter#5
10,900
22,600
FTKD15GV2S/RKE15GV2S
inverter#5
14,300
26,400
FTKD18GV2S/RKD18GV2S
inverter#5
17,700
28,800
FTKD24GV2S/RKD24GV2S
inverter#5
20,800
42,800
FTKD28GV2S/RKD28GV2S
-
23,200
46,900


ถ้าอ่านแล้วอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็เมลล์มาคุยกันได้ที่่ y u t c68@yahoo.... com... เวลาจะส่งเมลล์ก็ลบ ช่องว่าง กับลบ ..... ที่เกินออกไปด้วย

Sunday, July 19, 2009

ผมซื้อแอร์ที่ไหน

ผมโดนถามประจำว่าซื้อแอร์ที่ไหนราคามันถึงได้ถูกนัก ผมซื้อจากร้านในอินเตอร์เน็ตชื่อร้านพรหมดวง www.promduang.com ผมไม่ได้รู้จักับร้านนี้เลย แต่ซื้อกับเขามาหลายตัวแล้วเพราะราคาเขาถูกมากๆแถมรวมค่าติดตั้งแอร์แล้วด้วย แนะนำให้คนอื่นที่ถามมาให้ไปซื้อที่ร้านนี้มาเป็นสิบๆตัวแล้ว ก็คงพอใจกับราคาของทางร้าน ร้านนี้มีข้อเสียอยู่ 1 อย่างคือคนรับโทรศัพท์พูดจาห้วนๆ หลายคนบอกว่าพูดไม่เข้าหู พูดกวนๆ อันนี้ต้องบอกว่าจริงครับ ใครจะซื้อคงต้องทำใจ วิธีการซื้อคือต้องตัดสินใจเลือกรุ่น ยี่ห้อที่จะซื้อให้เรียบร้อย แล้ว fax แผนที่บ้านคุณ ระบุรุ่นยี่ห้อที่จะซื้อ ราคาที่ดูจากในเว็บ วันที่จะนัดติดตั้ง เบอร์โทรกลับ แล้วfax ให้ร้านเขา จากนั้นอีก 1 ชม ก็โทรไปถามว่าได้หรือยัง จะมาติดตั้งได้วันไหน แค่นี้ก็แทบจะไม่ต้องคุยกับเขามาก จะได้ไม่มีปัญหา ผมใช้วิธีนี้ก็ใช้ได้ดี

เพิ่มเติม 22 พค 53:
หลายคนจะกลัวว่าจะโดนร้านย้อมแมวเอาแอร์ตัวเก่ามาให้ หรือเอาแอร์ำไม่ดีมาให้ สำหรับร้านพรหมดวงนี่ผมซื้อมานับสิบตัว ทั้งของที่บ้านและของญาติพี่น้อง ไม่เคยมีปัญหาสักตัว แอร์ทุกตัวที่มาใหม่เอี่ยม แกะกล่องกันต่อหน้าเลย ได้รับใบรับประกันจากศูนย์ไดกิ้นทุกครั้ง แอร์ไดกิ้นรับประกัน 1ปีเต็ม ถ้าซื้อมาแล้วมีปัญหาอะไร ให้โทรเข้าศูนย์ไดกิ้นได้เลย เขาจะนัดวันมาแก้ปัญหาภายใน 1-2วันเท่านั้น ศูนย์ไดกิ้นเขาไม่สนด้วยว่าเราซื้อแอร์จากร้านไหน และไม่เคยเกี่ยงให้ไปตามร้านที่ซื้อมาซ่อมด้วย ช่างจากศูนย์ใหญ่มาซ่อมเองทุกครั้ง มาทีเดียวซ่อมเสร็จทุกครั้ง จะอาการหนักเบาอย่างไรก็ไม่เคยคิดเงินเพราะยังอยู่ในรับประกัน 1ปี มีอยู่ครั้งหนึ่งผมสั่งแอร์ไดกิ้นรุ่นธรรมดา ราคา 12000 บาทจากร้านพรหมดวง ส่งทางบริษัทขนส่งไำปให้บ้านญาติที่ อำเภอหนองบัวแดงจังหวัดชัยภูมิ ให้เขาไปจ้างช่างที่นั่นติดตั้งให้ ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะแอร์ใน กทมท ถูกกว่ากันหลายพันบาท ปรากฏว่าติดตั้งไปแล้วแอร์ไม่เย็น ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าเพราะแอร์ไดกิ้นไม่ดีหรอก คิดว่าช่างติดตั้งมีปัญหาแน่ๆ ก็โทรหาศูนย์ไดกิ้นที่ กทม ปรึกษาอาการ ศูนย์ใหญ่ไดกิ้นที่ กทม ก็ติดต่อไปที่ตัวแทนไดกิ้นที่ชัยภูมิไปดูให้ ปรากฏว่าช่างที่ติดตั้งทำไม่ดีจริงๆจนทำให้น้ำยารั่วออกไปเยอะ และงานหยาบมาก ช่างจากศูนย์ชัยภูมิเลยต้องรื้อติดตั้งใหม่ คราวนี้แอร์เย็นหายห่วงเลย และก็เหมือนเคยคือไม่คิดค่าบริการ แต่เนื่องจากช่างต้องเดินทางมา 50กิโล ข้ามเขามาหลายลูก ก็เลยมีค่าเดินทาง 500-600 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่ถูกมากๆ ก็ฝากไว้ว่าทำไมผมจึงแนะนำให้ซื้อแต่ไดกิ้นเท่านั้น บริการหลังการขายเขาเยี่ยมจริงๆ

ตอนต่อไปจะมาบอกว่าต้องคุมงานติดตั้งอย่างไร

Friday, July 17, 2009

ทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแอร์ ถามกันประจำ รวบรวมไว้ตอบทีเดียวเลย




ทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแอร์ ถามกันประจำ รวบรวมไว้ตอบทีเดียวเลย

ผมไม่ได้ขายแอร์ ไม่ได้ทำงานที่ไดกิ้น อยากแนะนำความรู้ทั่วไปที่คุณต้องใช้ในการซื้อแอร์

ขนาดของแอร์ BTU = พื้นที่ห้อง(ตรม) x 800 คิดได้กี่ BTU ก็ห้ามซื้อต่ำกว่านี้

ถ้าห้องโดนแดดตอนบ่ายตลอดบ่าย ความร้อนสะสมในกำแพงจะมาก ห้องร้อน แอร์เย็นช้า กินไฟ ให้ทาหางบังแดดไม่ให้โดนกำแพง ถ้าบังไม่ได้เวลาซื้อแอร์ ต้องเอาขนาดพื้นที่ห้อง คูณ 1000 ถึงจะได้ขนาดแอร์ที่เหมาะสม

ตำแหน่งติดตั้งคอล์ยร้อนให้หลีกเลี่ยงทิศตะวันตกเพราะโดนแดดส่องมาก ถ้าเปิดแอร์ตอนกลางวันแอร์จะทำงานหนัก ให้หาตำแหน่งที่โดนแดดน้อยที่สุด ลมพัดผ่านได้ดี ดูให้แน่ใจว่าลมร้อนที่พ่นออกจากแอร์ไม่ควรย้อนกับทิศทางลมที่พัดเข้าหาคอล์ยร้อน เพราะจะกลาวเป็นลมร้อนกลับมาเข้าแอร์อีกครั้ง ดีที่สุดคือลมร้อนพ่นออกมานี่อยู่ในทิศทางที่ลมพัดพอดี ลมเย็นจะเข้ามาระบายความร้อนให้แอร์ และพัดความร้อนออกไป

อย่าติดคอล์ยร้อนในตำแหน่งที่ต้องเสี่ยงตายทำงาน เพราะมันดูแลรักษายาก

ถ้าเป็นห้องชั้น 2 หรือชั้นบนสุดของตึกแถว จะมีปัญหาความร้อนเข้ามาทางฝ้าเพดานมาก แอร์ทำงานหนัก ให้พิจารณาติดตั้งฉนวนกันความร้อนเหนือฝ้าของ stay cool ตราช้างเอาแบบหนา 6 นิ้ว จะกันความร้อนได้ชงัด

ฉนวนกันความร้อน stay cool 1 ม้วน มีความยาวม้วนละ 4 เมตร กว้าง 0.6 เมตร หนา 6 นิ้ว คิดเป็นพื้น 2.4 ตรม/ม้วน บ้านคุณมีพื้นที่ฝ้าเท่าไรก็หารด้วย 2.4 จะได้จำนวนม้วนที่ต้องซื้อ

ราคาม้วนละ 450 บาท บางที่ก็ลดราคาลงมาแถวๆ 400 บาท/ม้วน เช็คกับร้านแถวบ้านดู ถ้าจะจ้างช่างปูก็ค่าแรง ตรม ละ 35 บาท ขั้นต่ำ 50 ตรม

ผมเชียร์แอร์ไดกิ้นเพราะ ใช้ดีไม่มีปัญหา ศูนย์บริการดีมาก ช่างมาเร็ว อะหลั่ยหาง่าย ราคาแอร์ไม่แพง โดยทั่วไปจะถูกกว่ามิตซูเล็กน้อย เสียงแอร์ทั้งคอล์ยร้อน คอล์ยเย็นเงียบมาก แต่บางคนชอบมิตซูก็เอาเลย แอร์ดีเช่นเดียวกัน

ไม่แนะนำให้ซื้อแอร์มือสอง แอร์ไม่มียี่ห้อ แอร์ไทยแต่ชื่อยี่ปุ่นแต่โฆษณาเยอะ แอร์จากตลาดมืดคลองถม เพราะปัญหามีเยอะ มีคนมาบ่นในเว็บบ่อยๆ แอร์ใหม่ 1 ตัวอายุการใช้งานเกิน 10ปีสบายๆ กัดฟันซื้อของดี เพิ่มเงินอีกนิดแล้วจะสบายใจไปอีก 10 กว่าปี แอร์ toshiba ที่ผมใช้ตอนนี้อายุ 13 ปีแล้ว ยังทำงานได้ดี

แอร์ SJ อาจดูดีตอนปีที่ 1 พอปีที่ 2 3 นี่ต้องลุ้นระทึกแล้วว่าจะโดนปัญหาอะไรบ้าง ที่แน่ๆคือเสียงคอล์ยร้อนที่ดังกระหึ่มตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดใช้งาน ถ้าติดที่ห้องนอนด้วยจะรำคาญมากๆเพราะ กลางคืนมันเงียบ เสียงแอร์ตัด ต่อทีนี่รู้ชัดเลย หนวกหูมากๆ เวลามีใครสักคนมาตั้งกระทู้บ่นแอร์ยี่ห้อนี้จะมีคนเข้ามาร่วมแจมมากๆเลย ถ้าไม่เชื่อผมลองค้นกระทู้เก่าๆด้วยยี่ห้อแอร์ดูแล้วจะรู้

เอาราคาพร้อมติดตั้งจากร้านใน pantipmarket.com ไปดู

แอร์ daikin ธรรมดา คอมแอร์จะตัด ต่อ เป็นระยะ อุณหภูมิในห้องจะไม่คงที่ จะมีปัญหาเดี๋ยวหนาวไป สักพักก็ร้อนไป สลับกันไปอย่างนี้ตลอดเวลา อันนี้เป็นเรื่องปกติของแอร์ระบบธรรมดา
รุ่น เบอร์ BTU ราคารวมค่าติดตั้งแล้ว
FTE09JV2S+RE09JV2S... 5......8900......13,200
FTE12JV2S+RE12JV2S....5......12,300....15,500


FT24GV2S+R24GV2S......5.....22,530......38,700
FT28GV2S+R28GV28 .....4.....24,500......42,700

แอร์ daikin inverter จะประหยัดไฟกว่าแอร์ธรรมดา 20-30%โดยประมาณ เสียงเงียบมาก ไม่มีการตัดต่อคอมแอร์ รักษาอุณหภูมิห้องได้คงที่ แต่ลมแอร์ที่ออกมาจะไม่เย็นจัดเหมือนแอร์ธรรมดา เหมาะมากสำหรับห้องนอน เพราะเสียงเงียบและไม่เกิดการหนาวๆร้อนๆตอนคอมแอร์ตัดต่อ ถ้าชอบลมแอร์ให้ออกมาเย็นๆแบบแอร์ธรรมดา ให้ตั้งที่ 23-24 องศาลมจะเย็นฉ่ำ แต่ก็ยังประหยัดไฟกว่าแอร์แบบธรรมดาตั้งที่ 25 องศา

ราคาแอร์ inverter
รุ่น เบอร์ BTU ราคารวมค่าติดตั้งแล้ว
FTKE12GV2S/RKE12GV2S.....5....10,900....24,500
FTKE15GV2S/RKE15GV2S.....5....14,300....28,500
FTKD18GV2S/RKD18GV2S.....5....17,700....31,400
FTKD24GV2S/RKD24GV2S.....5....20,800....45,700
FTKD28GV2S/RKD28GV2S..........23,200....50,600

บอกราคาให้เป็นแนวทาง จะได้ไม่ต้องซื้อของแพงกัน

เวลาติดตั้งแอร์ ให้ติดแอร์ในตำแหน่งที่พ่นลมไปทางด้านยาวของห้อง เช่นห้องขนาด 4x6 เมตร แอร์ต้องอยู่ด้าน 6 เมตรแล้วส่งลมไปตามยาว

ถ้าเป็นห้องนอน หากเป็นไปได้ติดแอร์ให้พ่นลมโดนบริเวณที่นอน แล้วตั้งให้ส่ายไปมา ทำให้รู้สึกเย็นมากโดยไม่ต้องตั้งแอร์ให้ทำงานที่อุณหภูมิต่ำๆให้เปลืองไฟ

ที่เชียร์ไดกิ้นเพราะ ไม่ว่าจะซื้อร้านไหน ถ้าแอร์มีปัญหาในช่วง 1 ปีแรก โทรตามศูนย์ไดกิ้นได้เลย ช่างมาเร็ว ไม่ต้องไปคุยกับร้านที่คุณซื้อเลย ดังนั้นจะซื้อร้านไหนก็ไม่สำคัญ เน้นที่ราคาถูก ช่างติดตั้งทำงานเรียบร้อย

บอกช่างด้วยว่าให้แวคอากาศออกจากระบบ 30 นาทีก่อนปล่อยน้ำยา ห้ามใช้น้ำยาแอร์ไล่อากาศเด็ดขาด

อย่าลืมให้ช่างต่อสายดินให้แอร์ด้วย ไม่งั้นไฟจะดูดเวลาไปโดนส่วนที่เป็นโลหะ

การหุ้มฉนวนท่อแอร์ทั้ง 2 ท่อต้องหุ้มแยกกัน แอร์ใหม่เดี๋ยวนี้จะให้ท่อมาแค่ 4 เมตร ถ้าใครต้องเดินท่อยาวกว่านั้นต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่พยายามให้ท่อสั้นที่สุด ยิ่งท่อยาวแอร์จะเสียกำลังในการทำความเย็นไป

เวลาติดตั้งแอร์ให้ด้านบนของคอล์ยเย็นต่ำกว่าเพดาน 1 ฟุต เวลาล้างจะล้างง่าย

คอล์ยร้อนให้ติดตั้งในที่ที่สะดวกต่อการติดตั้งและซ่อมบำรุง เวลาล้างจะล้างได้เอง

เวลาช่างมาล้างแอร์ สั่งเลยว่าห้ามวัดน้ำยา ห้ามเปิดจุกเติมน้ำยาเด็ดขาด และห้ามเติมน้ำยา แอร์เย็นดีอยู่แล้ว ไม่งั้นช่างจะมั่วนิ่มหาเงินเพิ่มด้วยการเติมน้ำยาทั้งที่ไม่จำเป็นเลย

แอร์เป็นระบบปิด น้ำยาจะไม่รั่วไหลไปไหน แอร์ที่บ้านผมอายุ 12 ปียังเย็นโดยไม่ต้องเติมน้ำยาเลย

ไม่แนะนำแอร์ SJ เพราะเห็นแต่กระทู้บ่นทั้งนั้น ที่แน่ๆคือเสียงดังมาก บางคนก็บ่นว่าช่างตามยาก แก้ปัญหาไม่ได้

ไม่แนะนำแอร์เกาหลี เพราะราคาสูสีหรือแพงกว่าแอร์ญี่ปุ่น แต่แอร์ญี่ปุ่นแน่นอนกว่าทั้งบริการหลังการขาย อะหลั่ย คุณภาพ

บ้านที่ใช้มิเตอร์ไฟ 5 แอมป์ติดแอร์ 13000 btu ได้ 1 ตัวเท่านั้น มิเตอร์จ่ายกระแสได้เต็มที่ 15 แอมป์ แอร์ 13000 btu กินกระแสไฟแถวๆ 5 แอมป์ แต่ต้องเผื่อเวลาคุณใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆด้วย

บ้านที่ใช้มิเตอร์ไฟ 15 แอมป์ติดแอร์ 13000 btu ได้หลายตัว มิเตอร์จ่ายกระแสได้เต็มที่ 45 แอมป์ แอร์ 13000 btu 1 ตัวกินกระแสไฟแถวๆ 5 แอมป์ บวกกระแสไฟที่แอร์ทุกตัวใช้ บวกกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆด้วย

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก แอร์จะเย็นช้ากว่าปกติ ไม่ได้หมายความว่าน้ำยาแอร์ขาดอย่างที่ช่างแอร์บางคนอ้างจะหาเรื่องเติมน้ำนาแอร์กินเงินคุณโดยไม่จำเป็น

แอร์ที่ติดตั้งแล้วมีน้ำไหลออกมามากทางท่อน้ำทิ้ง หรือมีหยดน้ำเกาะที่ท่อแอร์นั้นเป็นอาการที่ดี แสดงว่าแอร์มันเย็นมาก น้ำถึงเกาะท่อแอร์ ส่วนน้ำทิ้งออกมามากแสดงว่าในห้องมีความชื้นสูง แอร์จะดูดความชื้นออกจากห้องจนหมด แต่ห้องไม่ควรชื้นมาก เพราะแอร์จะทำงานหนักและกินไฟกว่าปกติ

การล้างแอร์ให้ล้างก็ต่อเมื่อพัดลมกรงกระรอกในคอล์ยเย็นตัน ไม่ได้ระบุว่าต้องล้างทุก 3-4 เดือน ตันเมื่อไหร่ก็ล้าง ถ้าเปิดแอร์บ่อยมันตันเร็วก็ล้างก่อน 3 เดือน ถ้าไม่ค่อยเปิด แอร์ตันช้า 5-6 เดือนค่อยล้างก็ได้

เวลาล้างแอร์ใช้น้ำเปล่าล้างก็พอ ไม่ต้องใช้โฟมกระป๋องราคา 200 กว่าบาทนั่นหรอก เปลืองเงิน แล้วก็ไม่ได้สะอาดกว่ากันเลย

เวลาฉีดน้ำล้างคอล์ยร้อน ให้ฉีดจากด้านในแผงระบายความร้อน ออกมาด้านนอก ฉีดจากด้านบนแผงเฉียงลงล่างแผง ห้ามฉีดอัดจากนอกแผงเข้าในแผงเพราะจะดันฝุ่นให้ติดเข้าไปลึก ล้างออกยาก

อย่าเรียกช่างแอร์ที่ชอบติดสติ๊กเกอร์เกลื่อนไปหมดทุกบ้าน ประเภทล้างแอร์ทีละ 300 บาท เพราะพวกนี้จ้องจะฟันคุณ ล้างแอร์ไม่สะอาด มาถึงก็จ้องจะเติมน้ำยาอย่างเดียว ถ้าคุณไม่เติม เขาจะแกล้งปล่อยน้ำยาออกทำให้แอร์ไม่เย็น พอโทรไปบ่นก็บอกว่าแอร์รั่ว จะคิดค่าซ่อมแพงๆ น้ำยาแอร์ที่ช่างพวกนี้ใช้เป็นแบบราคาถูก เกรดต่ำ มีความชื้นสูง เต็มแล้วแอร์ไม่เย็นหรือเย็นน้อยลง แต่วัดแรงดันแล้วจะพบว่าแรงดันน้ำยาแอร์พอดี

แรงดันน้ำยาแอร์ในท่อ Low presssure ปกติจะอยู่ช่วง 68-75 psi ช่วงนี้อากาศร้อนมาก แรงดันน้ำยาอาจขึ้นสูงกว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าน้ำยาแอร์เกิน แล้วไปปล่อยออก จริงๆแล้วน้ำยาแอร์มันพอดีมาจากโรงงานแล้ว ที่วัดความดันได้สูงเพราะอากาศร้อน ไม่ต้องปล่อยน้ำยาออก

ถ้าแอร์มีน้ำยาน้อย หรือน้ำยาขาดไป อาการคือแอร์ไม่ค่อยเย็น ถ้าไปดูท่อแอร์นอกบ้านจะพบว่าน้ำแข็งเกาะท่อแอร์เลย แต่ทั้งนี้ต้องแน่ใจว่าแอร์ไม่ตัน ล้างพัดลมกรงกระรอกสะอาดแล้ว เพราะแอร์ตันก็ไม่เย็นเช่นเดียวกัน

แอร์เก่าๆอายู 15-20 ปีกินไฟมาก เสียงดัง ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนใหม่ ราคาตอนนี้ก็ไม่ได้แพงอะไร ประหยัดค่าไฟไปเยอะ

ตั้งอุณหภูมิเท่าไรที่แอร์ประหยัดที่สุด ทางการรณรงค์ให้ตั้งที่ 25 ิงศา ไม่ได้หมายความว่าที่ 25 องศาประหยัดที่สุด เพียงแต่ 25 องศาเป็นอุณหภูมิที่เรากำลังเย็นดีและแอร์ก็กินไฟไม่มากจนเกินไป ถ้าอยากประหยัดไฟต้องตั้งอุณหภูมิให้สูงที่สุดเท่าที่ยังรู้สึกเย็สบายอยู่ อาจตั้ง 27 หรือ 28 องศาแล้วเปิดพัดลมแบบตั้งพื้นช่วย พัดลมกินไฟน้อยกว่าแอร์มาก เปิดพัดลม 1 ตัวกับแอร์ที่ 28 องศารับรองว่าค่าไฟถูกกว่าตั้งที่ 25 องศามาก

การจะบอกว่าแอร์เย็นฉ่ำ เย็นชืด ไม่เย็น นั้นไม่ควรเอาความรู้สึกมาวัด ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์มาวัด หาซื้อเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอล วัดอุณหภูมิได้ 2 จุดพร้อมกัน หาได้ที่ร้านอมรทุกสาขา ราคา 400-500 บาทแล้วแต่รุ่นที่คุณเลือก แอร์ระบบธรรมดาที่บอกว่าเย็นปกติ ต้องเปิดแอร์ไว้สัก 30 นาทีแล้วเอาหัววัดอุณหภูมิของเทอร์โมมิเตอร์ ไปวัดที่ช่องพ่นลมออกแอร์ ต้องวัดได้ช่วง 8-9 องศา อย่างนี้เรียกว่าแอร์ปกติ เย็นฉ่ำ ถ้าวัดได้เกิน 13 องศาอาจเป็นได้ตั้งแต่ ห้องร้อนจัด โดนแดดตอนบ่าย แอร์ตัวเล็กไปสู้ความร้อนไม่ไหว น้ำยาแอร์ขาด ไม่ได้ล้างแอร์นานคอล์ยร้อนตัน พัดลมตันพ่นลมไม่ออก ดังนั้นก่อนวัดอุณหภูมิวครมั่นใจว่าล้างแอร์สะอาด แอร์ระบายความร้อนได้ดี

ระวังน้ำยาแอร์บ้านคุณภาพต่ำ เติมแล้วแอร์ไม่เย็น




เมืองไทยอากาศร้อนทั้งปี โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่าง กทมที่มีปัญหาเรื่องปรากฏการโดมความร้อนที่ทำให้ในเมืองอากาศร้อนกว่าปกติ บ้านส่วนใหญ่ก็ติดแอร์กันทั้งนั้น พอใช้แอร์ไปสักระยะก็จะมีปัญหาแอร์ตัน ลมไม่ออก หรือแอร์เย็นน้อย เราก็จะเรียกช่างมาล้างแอร์ โดยทั่วไปค่าล้างแอร์ประมาณ 400-500 บาทซึ่งราคานี้ก็ถือว่าถูกมากแล้ว ช่างไม่ค่อยได้อะไรเลย แล้วช่างจำนวนมากที่ขาดจรรยาบันในงานช่างก็มักเพิ่มรายได้ด้วยการหาเรื่องเช็คน้ำยา แล้วเป็นอะไรก็ไม่รู้ น้ำยามันจะขาด ต้องเติมเพิ่มทุกทีไป ค่าเติมก็ปอนด์ละ 15-20-30 บาทแล้วแต่จะโดนฟันขนาดไหน

เวลาช่างต่อ เกจ์วัดเข้ากับแอร์ จะมีน้ำยารั่วออกมาทุกครั้ง จะรั่วมาก รั่วน้อยก็แล้วแต่ว่าช่างทำเร็วแค่ไหน ตอนปลดเกจ์วัดออกจากแอร์ก็จะรั่วอีกครั้ง โดนวัดน้ำยาบ่อยๆ แรงดันน้ำยาตกแน่ๆ ทางที่ดีบอกช่างที่มาล้างแอร์ทุกครั้งว่า ห้ามวัดน้ำยาแอร์ ห้ามเปิดจุดปิดรูวัดน้ำยาเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวมีแอบปล่อยน้ำยาอีก

ที่ต้องห้ามเพราะผมโดนมาแล้ว ช่างแอบปล่อยน้ำยา จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามแต่ คนที่บ้านไม่รู้ ไปเรียกช่างแิอร์ประเภทที่ติดสติ๊กเกอร์เกลื่อนตามหมู่บ้านว่า ล้างแอร์ครั้งละ 300 บาท ปรากฏว่าพอมาแล้วล้างแบบลวกๆ คอล์ยร้อนก็ไม่ล้าง จ้องจะวัดน้ำยาท่าเดียว พอวัดแล้วก็บอกว่าขาด ต้องเติม ปอนด์ละ 30 บาท พอเขาบอกไม่เติม ได้เรื่องเลย คืนนั้นแอร์ไม่เย็น คิดดูสิว่าแอร์ผมไม่ต้องเติมน้ำยามา 12 ปี พอช่างห่วยๆมาครั้งเดียวน้ำยาหายเกือบหมด พอโทรไปถามก็บอกว่าแอร์รั่วมั้ง ค่าซ่อม 1800 บาท คืิอจะฟันค่าซ่อมให้ได้ สุดท้ายผมต้องขนอุปกรณ์มาเติมน้ำยาเองให้เหนื่อยอีก เติมเสร็จเย็นเหมือนเดิม ค่าน้ำยาไม่ถึง 100 บาท

แอร์ทำงานโดยปกติ จะวัดแรงดันน้ำยาได้แถวๆ 68-70 ปอนด์ และแอร์เป็นระบบปิด หมายถึงน้ำยามันจะไม่รั่วไปไหน ถ้าช่างไม่แอบไปปล่อยตอนวัดน้ำยา แอร์ที่บ้านผมอายุ 12 ปีไม่เคยต้องเติมน้ำยา ไม่เคยวัดน้ำยา มันก็เย็นสู้อากาศร้อนได้สบายๆ

น้ำยาถูกๆที่ช่างแอร์ทั่วไปใช้ราคา กิโลละ 50-70 บาท น้ำยาพวกนี้มีปัญหาคืออาจมีสารปลอมปนสูง มีความชื้นในน้ำยาสูง ความชื้นและสารปลอมปนจะทำให้แอร์ไม่เย็น หรือถ้าชื้นมากๆถึงกับทำให้วาล์วฉีดน้ำยาตัน เพราะความชื้นไปจับตัวเป็นน้ำแข็งในระบบแอร์เลย ถ้าวาล์วตัน ความเย็นก็ไม่เหลือล่ะ

ไม่มีวิธีดูน้ำยาแอร์ปลอม หรือดูว่าน้ำยามีความชื้นสูงไหม เพราะมันต้องใช้เครื่องตรวจสอบน้ำยาเครื่องละหลายแสนบาท ส่วนใหญ่ที่จะรู้ว่าโดนน้ำยาแอร์ปลอมคือ เติมไปจนเต็มแล้วแอร์ไม่เย็น หรือเย็นน้อยนั่นล่ะ โดนเข้าไปแล้ว

ตอนนี้มีน้ำยาแอร์ R22 จากจีนซึ่งมีราคาถูกทะลักเข้ามามาก ช่างแอร์ชอบเพราะราคาถูกดี กิโลละ 50 บาทมั้ง แต่มีความชื้นและสารปลอมปนสูงมาก ถ้าขืนเติมเข้าไปปนกับน้ำยาแท้ๆจากโรงงานล่ะก็ แอร์จะทำความเย็นได้ลดลง กินไฟมากขึ้น

น้ำยา ดีๆ ของแท้กิโลละ 150 บาท มีช่างจำนวนไม่มากนักใช้ ช่างพวกนี้ฝีมือดี รู้ขั้นตอนในการทำงาน ราคาการให้บริการสูง และหาตัวช่างแบบนี้ยากหน่อย

ฝากไว้สำหรับคนที่จะล้างแอร์งวดหน้า อย่าเติมน้ำยาซี้ซั้วเด็ดขาด

รถ Hybrid ประหยัดน้ำมัน รักษาสภาพแวดล้อมจริงหรือ



ตอนนี้รถ Camry hybrid กระแสกำลังมาแรง มันดูเหมือนจะช่วยรักษาสภาพแวดล้อม คิดดูดีๆอีกที

ราคา แพงกว่ารุ่นธรรมดา 1 แสนบาท โดยปกติกว่าจะค้าขายได้กำไร 1 แสนบาท คุณอาจต้องขายของไปถึง 5 แสนบาท - 1 ล้านบาท กว่าที่ลูกค้าของคุณจะหาเงิน 5 แสน - 1 ล้านนั้นมาซื้อของของคุณเขาต้องทำอะไรไปบ้าง แล้วกิจกรรมเหล่านั้นมันใช้พลังงานไปเืท่าไำร ปล่อยก๊าซ Co2 เท่าไร ผมว่ามันมากกว่าที่เจ้ารถ hybrid มันช่วยลดการปล่อย Co2 ได้ใน 5-10 ปีด้วยซ้ำ

สมมุติว่า batt มีอายุ 8-9 ปี เปลี่ยนใหม่อีีก 1 แสน กว่าคุณจะหาเงินอีก 1 แสนนั่นได้ จะต้องทำกิจกรรมต่างๆที่จะปล่อย Co2 มากอีกเท่าไร กิจกรรมเหล่านั้นจะใช้พลังงานหรือใช้น้ำมันไปมากกว่าที่เจ้า hybrid มันช่วยประหยัดอีก

batt ที่เปลี่ยนไปตอน 8-10 ปีก็จะโดนไป recycle แล้วกระบวนการนี้มันก็ใช้พลังงานไฟฟ้า ใช้น้ำมัน ปล่อย Co2 ออกมากอีก ซึ่งรถธรรมดาจะไม่มี batt ตัวนี้ให้ต้อง recycle

รถ hybrid มี 2 ระบบในคันเดียวกัน ทั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องยนตร์ ค่าบำรุงรักษาต้องแพงกว่ารถที่ใช้เครื่องยนตร์อย่างเดียวแน่ๆ คุณต้องจ่ายเงินค่าบำรุงรักษาที่แพงขึ้น คุณต้องทำกิจกรรม ทำงานต่างๆเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าบำรุงรักษาที่แพงขึ้น ใช้พลังงานไปมากขึ้น ปล่อย Co2 มากขึ้นไปอีก

ถ้าอย่างซวยๆใช้ไป 8 ปีแล้วแผงวงจรควบคุมระบบ hybrid หรือแผง inverter พังน่ะ 2-3 แสนบาท กว่าจะหาเงินก้อนนี้ได้ต้องทำกิจกรรมอีกมากต้องใช้พลังงานไปอีกเยอะ ปล่อย Co2 อีกแยะ เพื่อเอาเงินมาซื้อแผงควบคุม

ลองดู Total cost of ownership ของรถ Hybrid ใน 10 ปีดูดีๆ ซึ่งจะประกอปไปด้วย
1 ค่ารถ hybrid ที่แพงกว่า camry ธรรมดา 1 แสน
2 ค่าน้ำมัน 10 ปี
3 ค่าบำรุงรักษารถ 10 ปี(ทั้งระบบเครื่องยนตร์ ระบบ hybrid)
4 ค่า batt hybrid 1 ชุด
5 ค่าแผงควบคุมระบบ hybrid
6 ค่าประกันภัยรถ ที่จะแพงกว่าธรรมดา เพราะราคารถมันแพง

เชื่อ ได้ว่าค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดมันจะสูงกว่า camry ธรรมดา พอมันสูงกว่าคุณต้องหาเงินมากขึ้นเพื่อมาจ่าย คุณต้องทำกิจกรรมต่างๆเพื่อหาเงินมากขึ้น กิจกรรมเหล่านั้นจะใช้พลังงานมากขึ้น ปล่อย Co2 มากขึ้น ทำให้โดนรวมแล้วการใช้รถ Hybrid เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สร้าง Co2 มากขึ้น

ถ้าดูแต่ว่ารถ hybrid มันกินน้ำมันน้อยลงอย่างเดียว ทำให้ปล่อย Co2 น้อยลง เลยดูเหมือนว่าคนใช้รถประเภทนี้ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม ลดการปล่อย Co2 ลง ซึ่งนี่เป็นภาพที่บริษัทรถพยายามสร้างขึ้นมาให้คนยอมรับและยอมจ่ายแพงขึ้น แต่บริษัทรถบอกความจริงไม่หมด เงินที่คุณต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อใช้รถ Hybrid ทำให้เกิดการใช้พลังงานขึ้นอย่างมาก ปล่อย Co2 มากขึ้น

รถ HYbrid มันแค่ย้ายจุดใช้พลังงานจุดปล่อย Co2 จากรถของคุณ ไปเพิ่มที่กิจกรรมต่างๆที่คุณต้องทำมากขึ้นเพื่อหาเงินมาจ่ายให้รถ Hybrid

คิดดีๆ มองในภาพกว้างทั้งระบบ อย่าไปมองที่ตัวรถอย่างเดียว

การ ใช้รถไฟฟ้าล้วนๆก็ทำนองเดียวกัน รถไฟฟ้ามันไม่ปล่อย Co2 ก็จริง แต่มันชาร์จไฟจากไฟบ้าน แล้วการผลิตไฟบ้านมันก็ใช้พลังงาน ปล่อย Co2 เหมือนกัน แถมไฟฟ้าที่ผลิตได้จะสูญเสียในสายส่งกว่าจะมาถึงบ้านคุณ สูญเสียจากการชาร์จเข้าไปในแบต ไฟฟ้า 100 ส่วน หายไปในสายส่ง 5 ส่วน อาจจะชาร์จเข้า batt ได้ 80 ส่วนเท่านั้น อีก 15 ส่วน loss ไปในระหว่างการชาร์จ แล้วไฟที่อยู่ใน batt 80 ส่วนจะแปลงกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าได้สัก 70 ส่วนก็เก่งแล้ว เกิดสูญเสียในระบบ control อีก 10 ส่วน จากนั้นมอเตอร์รับพลังงาน 60 ส่วนที่เหลือไปแปลงเป็นพลังงานกลได้สัก 45-50 ส่วน จะเห็นว่ารถไฟฟ้าก็เกิด loss พลังงานไปเยอะ สุดท้ายแล้วมันทำให้มีการใช้พลังงานมากเหลือเกิน

ถ้าอยากประหยัด พลังงานจริงๆ ลดการปล่อย Co2 ใช้รถธรรมดานี่แหละ โยนของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ เติมลมยางให้พอดี เป่ากรองอากาศ อย่าขับรถเร็ว อย่าเหยียบเบรคบ่อยๆ อย่าเร่งแรงๆออกตัวแรงๆ อย่าใส่ยางหน้ากว้าง เท่านี้แหละคุณช่วยโลกได้มากกว่าใช้รถ hybrid อีก

มาทำเจลล้างมือกันเถอะ



ช่วงนี้เจลล้างมือราคาแพง มาทำเองก็ได้ ง่ายจริงๆ

สูตรจาก link http://www.archeep.com/invention/prd_oct_08.html

นี่เป็นอีกสูตรของ

ส่วนผสม

1. CARBOPOL ULTREZ 5 กรัม
WATER 470 กรัม

2. TRIETHANOLAMINE 5 กรัม

3. ALCOHOL 500 กรัม
GLYCERINE 5 กรัม

4. กลิ่น BABY JOUICE 1 กรัม
CREMOPHOR RH-40 10 กรัม
TEA TREE OIL 10 กรัม

วิธีทำ

1. ผสม CARBOPOL ULTREZ WATER แล้วกวนจนเข้ากัน
2. ใส่ TRIETHANOLAMINE ลงไปกวนจนเข้ากัน
3. ผสม ALCOHOL GLYCERINE แล้วเทลงใน ส่วนผสมตามข้อ 2 จากนั้นกวนจนเข้ากัน
4. ผสม กลิ่นแล้วกวนจนเข้ากันแล้วจึงบรรจุใส่ภาชนะ